หน้าหลักเกี่ยวกับวัดบุคลากรบริการLinks

อารักขเทวดา

ที่เรียกว่าอย่างนี้ก็เพราะว่าในเพลงสดุดีที่ 99,11 กล่าวว่าเทวดาคุ้มครองทุกฝีก้าวของเรา ความศรัทธาต่ออารักขเทวดาช่วยให้เราเจริญก้าวหน้าในชีวิตฝ่ายจิต ใครที่เรียกหาอารักขเทวดาของตนก็เป็นเหมือนกับผู้ที่ได้ค้นพบขอบฟ้าใหม่ที่มองไม่เห็นด้วยสายตาของมนุษย์ เทวดาเป็นเสมือนสวิทช์ไฟฟ้าที่ทำให้ชีวิตของเราเต็มไปด้วยแสงสว่างของพระเจ้า เทวดาจะช่วยเพิ่มพูนความรักของเราและช่วยเราให้รอดพ้นจากภยันตรายและความยากลำบากต่างๆมากมาย

คุณพ่อโดนาโต จีเมเนส กล่าวว่า “ ในบ้านของผมเต็มไปด้วยความศรัทธาต่ออารักขเทวดา ในห้องอ่านหนังสือจะมีรูปแผ่นใหญ่ของอารักขเทวดา เมื่อเราเข้านอนเราก็มองดูอารักขเทวดาของเราและก็ไม่ต้องคิดถึงอย่างอื่น เรามีความรู้สึกว่าเราอยู่ใกล้และมีความใกล้ชิดกับท่าน ท่านเป็นเพื่อนของผมทุกวันทุกคืน ผมรู้สึกมีความมั่นคง มั่นคงทางด้านจิตวิทยาหรือ ? ใช่ … มากยิ่งขึ้นมันเป็นเรื่องของศาสนา เมื่อคุณแม่หรือพี่ชายของผมเข้ามาเพื่อดูว่าเราขึ้นเตียงนอนหรือยัง ? และดังนี้จึงเป็นธรรมเนียมของเราที่จะเห็นอารักขเทวดาเป็นผู้ร่วมทาง เป็นเพื่อนและเป็นที่ปรึกษาที่พระเป็นเจ้าเองได้ทรงส่งมาให้ ทั้งหมดนี้หมายถึงเทวดา ผมพูดได้เต็มปากว่า ผมรู้ไม่ใช่แต่โดยสัญชาตญาณหรือได้ยินในห้วงลึกของจิตใจของผมถึงอะไรบางอย่างที่เป็นเสมือนเสียงของท่านหลายต่อหลายครั้งเท่านั้น แต่ยังมีความรู้สึกถึงมือที่อบอุ่นของท่านซึ่งจูงผมในหนทางแห่งชีวิตของผมอีกด้วย ความศรัทธาต่อเทวดาเป็นความศรัทธาที่เกิดขึ้นในครอบครัวที่มีรากฐานของการเป็นคริสตัง ทั้งนี้เพราะว่าอารักขเทวดาไม่ได้เป็นแฟชั่นแต่เป็นความเชื่อ ”

เราแต่ละคนต่างก็มีเทวดาด้วยกันทั้งนั้น ดังนั้นเวลาที่พูดคุยกับคนอื่นก็จงคิดถึงเทวดาของเขาด้วย เวลาที่อยู่ในรถ บนเรือหรือบนเครื่องบิน … หรือเดินไปตามถนนก็จงคิดถึงเทวดาที่อยู่รอบๆตัวเรา เพื่อจะได้ส่งยิ้มให้ เพื่อจะได้ทักทายด้วยความรักและความเห็นอกเห็นใจ เป็นการดีที่เราจะคิดถึงเทวดาของผู้ที่อยู่รอบข้างเรา แม้แต่คนป่วย ท่านต่างก็เป็นของเราทั้งนั้น พวกท่านก็มีความดีใจที่มีมิตรภาพกับเราและให้ความช่วยเหลือแก่เรามากกว่าที่เราคิดเสียอีก ช่างเป็นความสุขใจเสียจริงๆที่ได้รู้จักรอยยิ้มและมิตรภาพของท่าน นับตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ท่านจงคิดถึงอารักขเทวดาของคนที่อยู่ใกล้ๆตัวเรา พร้อมกับทำตัวของเราให้เป็นเพื่อนกับพวกท่าน แล้วเราจะได้รับความสุขและความช่วยเหลือจากท่านเป็นอย่างมาก

ข้าพเจ้ายังจำสิ่งที่นักบวชหญิงคนหนึ่งที่เขาถือว่าเป็น “ นักบุญ ” เขียนมาหาข้าพเจ้า เธอพบปะกับอารักขเทวดาของเธอบ่อยครั้ง ครั้งหนึ่งมีใครบางคนที่ส่งอารักขเทวดาของตนไปหาเธอเพื่ออวยพรวันเกิดให้เธอและเธอก็ได้เห็นท่าน “ เป็นความสวยงามที่มีแสงเปล่งปลั่ง ” ในมือถือดอกกุหลาบแดงอันเป็นดอกไม้ที่เธอโปรด เธอบอกว่า “ เทวดารู้ได้อย่างไรว่านั่นเป็นดอกไม้ที่ดิฉันโปรดปราน ? ดิฉันทราบดีว่าเทวดารู้ทุกสิ่งทุกอย่าง นับตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา ดิฉันมีความหวังดีต่อเทวดาที่ถูกส่งมาหาดิฉันมากยิ่งขึ้นและดิฉันทราบว่ามันเป็นอะไรบางอย่างที่พิเศษสุดที่จะมีมิตรไมตรีกับบรรดาเทวดาของเพื่อนๆเรา ของผู้ที่เรารู้จักและของผู้ที่อยู่รอบข้างเรา ”

ครั้งหนึ่งมีหญิงชราคนหนึ่ง พูดกับมองซิงญอร์ จัง กัลเว ผู้อำนวยการแผนกวรรณคดีศาสตร์ของมหาวิทยาลัยคาทอลิกแห่งกรุงปารีสว่า - สวัสดีค่ะ ท่านผู้อำนวยการและสหายของท่าน

- ผมอยู่ที่นี่คนเดียวนะครับ ?

- แล้วท่านเอาอารักขเทวดาของท่านไปทิ้งไว้ที่ไหนล่ะ ?

เป็นบทเรียนที่ดีสำหรับนักเทววิทยาที่จมอยู่ในกองหนังสือแต่กลับลืมความจริงที่พิเศษสุดฝ่ายจิต ในเรื่องนี้พระสงฆ์ที่มีชื่อเสียงชาวฝรั่งเศสคนหนึ่งชื่อ คุณพ่อจัง เอดัวร์ ลามี ( 1853-1931) กล่าวว่า “ เราไม่ได้ภาวนาถึงอารักขเทวดาของเราอย่างเพียงพอ เราต้องวอนขอท่านในทุกเรื่องและอย่าลืมว่าท่านอยู่กับเราตลอดเวลา ท่านเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของเรา ท่านเป็นผู้คุ้มครองที่ดีที่สุดและเป็นมิตรที่ดีที่สุดในการรับใช้พระเป็นเจ้า ” ท่านยังบอกอีกว่าในระหว่างสงครามท่านต้องออกไปช่วยเหลือผู้ที่ได้รับบาดเจ็บที่อยู่แนวหน้า บางครั้งท่านถูกเทวดาพาตัวไปจากสถานที่หนึ่งไปยังสถานที่อีกแห่งหนึ่งเพื่อจะสามารถทำพันธกิจของท่านได้อย่างดี เป็นเรื่องแบบเดียวกับที่ได้เกิดขึ้นกับอัครสาวกฟีลิปที่ถูกเทวดาของพระเจ้าพาตัวไป ( กจ . 8,39) และประกาศกฮาบากุกที่ถูกนำตัวไปจนถึงบาบิโลนใกล้กรงสิงโตที่ดาเนียลอยู่ ( ดนล . 14,36)

เพราะเหตุนี้เองเราจึงควรขอให้อารักขเทวดาของเราช่วยเหลือเรา ไม่ว่าเราจะทำงาน เรียนหรือเดินทาง เราควรขอให้อารักขเทวดาของเราไปเยี่ยมพระเยซูเจ้าในศีลมหาสนิทแทนตัวเรา ดังที่นักบวชผู้ศักดิ์สิทธิ์หลายท่านทำกัน “ ข้าแต่อารักขเทวดา กรุณารีบไปหาพระเยซูเจ้าในศีลมหาสนิทในตู้ศีลและสวัสดีพระองค์แทนดิฉันด้วย ” ขอให้ท่านวิงวอนหรือเฝ้าพระองค์แทนตัวเราในเวลากลางคืน ณ ตรงที่ใกล้ตู้ศีลที่สุด หรือขอให้ท่านช่วยขอให้เทวดาองค์ใดองค์หนึ่งที่อยู่ต่อหน้าพระเยซูเจ้าในศีลมหาสนิทตลอดเวลาให้กราบนมัสการพระองค์แทนตัวเรา ลองหลับตาคิดดูซิว่าเราจะได้รับพระพรมากมายสักเพียงใดจากพระเยซูเจ้า ถ้าหากว่าเรามีเทวดาองค์หนึ่งที่กราบนมัสการพระองค์ตลอดเวลาแทนเรา ? จงวอนขอพระพรประการนี้จากพระเยซูเจ้า

ถ้าหากว่าเรากำลังเดินทางอยู่ก็จงมอบตัวของเราไว้กับบรรดาเทวดาของผู้โดยสารทั้งหลาย ฝากตัวของเราไว้กับบรรดาเทวดาของวัดหรือของเมืองต่างๆที่เราเดินทางผ่าน พร้อมกับฝากตัวของเราไว้กับเทวดาของผู้ขับรถด้วย เพื่อว่าเราจะได้ไม่เกิดอุบัติเหตุ เรายังสามารถทำแบบเดียวกันนี้กับเทวดาของผู้ขับเรือโดยสาร ของพนักงานขับรถไฟหรือนักบิน … จงทักทายและสวดขอเทวดาของเราให้ไปเยี่ยมคนที่เรารู้จักแทนเรา รวมไปถึงผู้ที่อยู่ในไฟชำระด้วย เพื่อขอให้พระเป็นเจ้าอวยพรพวกเขา

ถ้าหากว่าเราจะต้องรับการผ่าตัดก็จงวิงวอนเทวดาของผู้ที่ทำการผ่าตัด ของพยาบาลและของผู้ที่เฝ้าดูแลเรา วิงวอนเทวดาประจำบ้านของเรา ของพ่อ - แม่เราและของผู้ร่วมงานกับเรา ทั้งที่อยู่บ้านและอยู่ในที่ทำงาน ถ้าหากว่าพวกเขาอยู่ห่างไกลหรือไม่สบายก็จงส่งอารักขเทวดาของเราไปให้ความบรรเทาใจแก่พวกเขา

ในกรณีที่ตกอยู่ในอันตรายเช่นแผ่นดินไหว หรือถูกโจมตีจากผู้ก่อการร้ายหรือโจรผู้ร้าย ก็จงส่งอารักขเทวดาของเราไปให้ความคุ้มครองให้แก่พี่น้องของเราหรือคนที่เรารู้จัก เวลาที่เราจะต้องเจรจาเรื่องที่สำคัญกับคนอื่นก็จงวอนขอเทวดาของเขาให้เตรียมจิตใจของเขาให้เห็นอกเห็นใจเรา ถ้าหากว่าเราต้องการให้คนใดคนหนึ่งในครอบครัวของเรากลับใจ ก็จงภาวนามากๆแต่ในเวลาเดียวกันก็อย่าได้ลืมอารักขเทวดาของเขา ถ้าหากว่าเราเป็นอาจารย์สอนก็จงวิงวอนเทวดาของนักศึกษาของเราให้ช่วยพวกเขาให้รู้จักตั้งใจฟังและเข้าใจบทเรียน แม้แต่พระสงฆ์เองก็ควรวิงวอนเทวดาของสัตบุรุษของท่านให้ช่วยพวกเขาเวลาที่พวกเขาร่วมถวายบูชามิสซา เพื่อพวกเขาจะได้เข้าใจบูชายัญและพระพรต่างๆของพระเป็นเจ้าได้อย่างดีกว่า และก็อย่าลืมเทวดาประจำวัด ประจำเมืองและประจำประเทศของเราด้วย

กี่ครั้งกี่หนแล้วที่อารักขเทวดาของเราได้ช่วยเราให้รอดพ้นจากอันตรายที่รุนแรงทั้งฝ่ายกายและฝ่ายวิญญาณโดยที่เราไม่รู้เลย ?
 

เทวดาที่ปรึกษา

อารักขเทวดาของเราให้คำปรึกษาที่ดีแก่เราและช่วยขจัดภยันตรายต่างๆให้เรา ท่านยื่นมือให้เราเสมอและถ้าหากว่าเราทำอะไรบางอย่างในแง่ลบหรือทำบาปท่านก็จะทำให้เรารู้สึกตัว ท่านเป็นเพื่อนที่ดีที่มีความหวังดีต่อเราและเพราะเหตุนี้เองท่านจึงไม่ปล่อยให้ความขาดตกบกพร่องของเราผ่านไปได้เพราะมันผิดทั้งต่อตัวท่านและต่อพระเป็นเจ้าด้วย ท่านยังยอมที่จะให้อภัยแก่เราอย่างง่ายๆด้วย ท่านมีความเพียรทนมากแต่เวลาทำอะไรท่านทำจริง บรรดานักบุญกล่าวว่าบางครั้งบางคราวที่พวกท่าน ( นักบุญ ) ทำอะไรขาดตกบกพร่องไป เทวดาซึ่งปกติมองไม่เห็นนั้นจะปรากฏตัวเพื่อบอกให้พวกท่านทราบถึงความไม่พอใจของเทวดา

นักบวชหญิงคนหนึ่ง เล่าว่า “ ในวันที่ดิฉันอายุครบเจ็ดขวบดิฉันได้เห็นเครื่องหมายพิเศษสุด อารักขเทวดาของดิฉันทำให้ดิฉันออกจากเตียงโดยไม่ได้พูดอะไรและให้ไปยืนอยู่ตรงกลางห้องและพนมมือเพื่อจะได้ภาวนาด้วยกันแล้วพูดกับดิฉันว่า จงต่อสู้และทำใจให้เข้มแข็ง ในขณะนั้นเองเจ้าปีศาจได้ปรากฏตัวพร้อมกับทุ่มดิฉันลงพื้น ดิฉันต่อสู้กับมันแต่สุดท้ายดิฉันรู้สึกเหนื่อยจากการต่อสู้และจากการสวดภาวนา มันต้องการทำให้ดิฉันพ่ายแพ้ เจ้าปีศาจยังคงแสดงความยะโสพร้อมกับโอดครวญว่ามันไม่มีอนุญาตให้ทำร้ายดิฉันทั้งเป็นได้ เทวดาต้องทรมานเพราะความสบประมาทและเพราะความยะโสของเจ้าปีศาจจึงได้นั่งลงและร้องไห้พร้อมกับกล่าวกับบุคคลหนึ่งที่มองไม่เห็นซึ่งไม่ต้องการครอบครองตัวดิฉัน แต่ “ เพื่อเห็นแก่ความนบนอบ ” จึงยังคงอยู่ใกล้ตัวดิฉันด้วยความรักต่อไป ท่านได้ช่วยดิฉันให้ลุกขึ้นและช่วยให้พ้นจากความชั่วร้ายนั้น ”

เธอยังพูดอีกว่า “ ดิฉันจะไม่มีวันลืมคำแนะนำของเทวดาให้ต่อสู้และทำใจให้เข้มแข็ง ท่านสอนดิฉันอย่างชัดเจนว่า ถ้าหากดิฉันไม่ต้องการที่จะทำบาปปีศาจก็ไม่สามารถทำอะไรดิฉันได้ พระเป็นเจ้าอนุญาตให้การประจญล่อลวงเกิดขึ้นเพื่อเราจะได้เติบโตขึ้นในความรักของพระองค์ ปีศาจไม่สามารถเข้าในวิญญาณของเราได้ ถ้าหากว่าเราไม่ยอมให้มันเข้า ปีศาจไม่สามารถเอาชนะเราและทำให้เราตกอยู่ในการประจญได้ ถ้าหากว่าเรามอบตัวไว้กับพระเป็นเจ้าและในความช่วยเหลือของพระแม่มารีและของอารักขเทวดาของเรา เพราะเหตุนี้ เวลาที่เราต้องต่อสู้กับปีศาจ เราจะต้องไม่ลืมพวกท่าน ”

ท่านได้ปฏิบัติตามคำแนะนำของอารักขเทวดาของท่านหรือเปล่า
 

ความกตัญญูต่อเทวดา

อารักขเทวดาก็มีความรู้สึกรัก กตัญญูฯลฯ ต่อผู้ที่ท่านปกปักรักษาด้วย ถ้าหากว่าเรามีความกตัญญูต่อท่าน ท่านก็พร้อมที่จะรับฟังและสงเคราะห์เรามากกว่า ให้เราคิดว่าท่านเป็นเพื่อนคนหนึ่งของเรา เมื่อท่านให้ความช่วยเหลือแก่เรา ท่านจะไม่มีความยินดีดอกหรือ ถ้าหากว่าเราแสดงความกตัญญูต่อท่าน ? แม้แต่เทวดาก็ยังรู้สึกยินดีเช่นกัน ถ้าหากว่าเรารู้จักยอมรับผลงาน การอุทิศตน ความเพียรทนและความใจกว้างที่ท่านมีต่อเรา ถ้าหากว่าเราทำให้ท่านยินดีด้วยการแสดงความกตัญญูของเราด้วยการส่งยิ้มให้ท่าน ถวายมิสซาเพื่อเป็นเกียรติแด่ท่าน สวดหรือขับร้องบทภาวนาของท่านหรือทำความยินดีเล็กๆน้อยๆให้แก่ท่านในแต่ละวันเพื่อเป็นการแสดงความกตัญญูต่อท่าน ก็จะเป็นสิ่งที่นำความยินดีให้แก่ท่านมาก

นักบวชหญิงคนหนึ่ง เล่าว่าวันหนึ่งเธอเห็นเทวดาองค์หนึ่งยิ้มในระหว่างบูชามิสซา เธอพูดว่า “ รอยยิ้มของท่านนั้นสวยที่สุด เป็นชิ้นส่วนเล็กน้อยที่สุดจากสวรรค์ ” วาสสุลา ไรเดน ที่เราได้กล่าวถึงก่อนหน้านี้เล่าว่า “ วันหนึ่งดิฉันได้รับรางวัลเป็นช่อดอกไม้ใหญ่สวยงามที่สุดช่อหนึ่ง ดิฉันกำลังเดินทางผ่านประเทศปากีสถาน เพื่อกลับประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ดิฉันอยู่ในโรงแรมทั้งวันเพื่อรอเวลาจะไปที่สนามบิน เทวดาบอกดิฉันว่า อีกไม่นานจะถึงคริสต์มาสแล้วเราอยากให้ของขวัญอะไรบางอย่าง … เราจะให้ดอกไม้แก่เธอ

- ดอกไม้จริงๆหรือดอกไม้ฝ่ายจิตคะ ?

- ดอกไม้จริงๆ

- แล้วดิฉันจะรู้ได้อย่างไรว่ามันมาจากท่านคะ ?

- เราจะเซ็นชื่อให้ จงสังเกตดูลายมือของเรา

ไม่นานหลังจากนั้นดิฉันก็เข้าไปรับอาหารเย็นในห้องอาหาร ดิฉันอยู่คนเดียวในห้องนั้น มีชายคนหนึ่งเดินเข้ามาหาดิฉัน แต่งตัวเป็นพนักงานของโรงแรมและได้มอบดอกกุหลาบของปากีสถานให้ดิฉันช่อหนึ่งโดยที่ไม่ได้พูดอะไรเลยแล้วก็เดินออกไปโดยที่ไม่พูดอะไรเช่นกัน มันเป็นช่อดอกไม้ที่สวยที่สุดประดับด้วยสายเงินแบบเดียวกันกับต้นคริสต์มาส มันทำให้ดิฉันนั่งอึ้งไปโดยไม่รู้จะพูดอย่างไร ”

เทวดามีความอ่อนช้อยต่อเรามาก แล้วทำไมเราจึงไม่มีความอ่อนช้อยต่อท่านบ้าง ? เราอย่าไปทำอะไรต่อหน้าท่านที่จะทำให้ท่านต้องอับอาย ให้เราพยายามเชิญท่าน แม้จะเป็นแบบสัญลักษณ์ก็ตาม เวลาที่เรามีอะไรจะรับประทาน ให้รางวัลแก่ท่านบ้างแล้วก็บอกท่านว่าเรารักท่านสุดหัวใจในฐานะที่ท่านเป็นเพื่อนที่ดีของเรา ให้เราพูดอะไรบางอย่างที่เสนาะหูกับท่านราวกับว่าท่านเป็นคู่หมั้นและถ้าหากว่าท่านมีความรู้สึกว่าท่านได้รับการขอบคุณ ท่านก็จะอวยพรเรามากกว่าที่เราคิดเสียอีก

ท่านเคยมีความกตัญญูต่ออารักขเทวดาของท่านบ้างไหม
 

มิตรภาพระหว่างบรรดาเทวดา

มีรูปภาพที่ค่อนข้างมีชื่อเสียงรูปหนึ่งเป็นรูปเทวดาสององค์ที่กำลังเฝ้าดูเด็กสองคนในขณะที่พวกเขากำลังสนทนากัน แน่นอนที่สุดบรรดาเทวดาต่างก็รู้จักกันและรักกันและกัน ท่านไม่ได้ต่างองค์ต่างอยู่ หรือต่างองค์ต่างปฏิบัติหน้าที่ของตน บรรดาอารักขเทวดาไม่ได้อยู่ติดกับผู้ที่ท่านต้องอารักขเทวดาตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง เราไม่ได้เป็นของท่านโดยเฉพาะเจาะจง เทวดาอารักขาเราก็จริง แต่ก็ไม่ได้เป็นแบบเฉพาะเจาะจงโดยที่ไม่ได้สนใจกับคนอื่นๆที่อยู่รอบข้างเรา แม้แต่เทวดาก็ยังให้ความช่วยเหลือแก่กันและกันด้วยเช่นกัน

มันเป็นความรู้สึกที่สร้างสรรค์มาก ถ้าหากเรารู้ว่าบรรดาเทวดาของผู้ที่อยู่รอบข้างเราต่างก็เป็นเพื่อนของเราด้วย และต่างก็ให้ความช่วยเหลือแก่เราเช่นกัน เพราะเหตุนี้ความศรัทธาและความรักต่อบรรดาเทวดาจึงเป็นอะไรบางอย่างที่ดีงาม เชื่อกันว่าอารักขเทวดาของบุคคลที่ไม่ดีจะขอร้องอารักขเทวดาของบุคคลที่ดีให้ช่วยเหลือตนด้วยคำภาวนา ดังนั้นท่านจะได้รับพระพรมากมายอันเนื่องมาจากข้อความเชื่อเรื่องสหพันธ์นักบุญคือความสนิทสัมพันธ์ต่อกันและกัน เทวดาต่างก็รักเราและบรรดานักบุญก็เช่นกัน เหมือนมนุษย์ที่ดีรักกันและเราจะต้องตอบสนองต่อความรักนี้ด้วยการรักกันและกันด้วยสิ้นสุดจิตใจและด้วยการสวดภาวนาให้แก่กันและกันด้วย

มีกี่ครั้งที่บรรดาอารักขเทวดาของสมาชิกของครอบครัวเดียวกันจะพูดคุยและภาวนาพร้อมกันรวมไปถึงสมาชิกที่ได้เสียชีวิตไปแล้วด้วย บรรดาเทวดาเจริญชีวิตเป็นหนึ่งเดียวกันในความรักของพระเป็นเจ้าและเราทุกคนจะต้องเป็นหนึ่งเดียวกันกับพวกท่านและทำให้เป็นครอบครัวใหญ่ครอบครัวเดียวของบรรดาบุตรของพระเจ้า ให้เราเป็นหนึ่งเดียวกันกับบรรดานักบุญและวิญญาณที่อยู่ในไฟชำระด้วย เราไม่สมควรที่จะให้ความสำคัญแก่ความรักและความศรัทธาต่ออารักขเทวดาของผู้ที่เรารู้จักและของผู้ที่อยู่รอบข้างเราบ้างหรือ ? ท่านเป็นชาวสวรรค์ที่ฉายแสงเจิดจ้า เป็นความรักและสันติภาพ การประทับอยู่ของพวกท่านย่อมกระตุ้นให้เราดำเนินชีวิตในความดีและความสงบราบคาบ

เราไม่ต้องกลัวต่อการโจมตีของศัตรู เพราะว่าเรามีผู้ป้องกันที่อยู่เคียงข้างเรา ความเป็นหนึ่งเดียวกันทำให้มีพลัง ขอให้อารักขเทวดาเป็นเพื่อนที่ดีของเราแต่ก็อย่าได้เมินเฉยต่อท่านอื่นด้วย อย่างที่ว่ากันว่า “ เราอยากมีเพื่อนเป็นล้านๆคน ” เพื่อนล้านๆคนที่คุ้มครองและรักเรา

ท่านให้อารักขเทวดาของท่านเป็นเพื่อนท่านหรือเปล่า ?
 

เทวดาเป็นเพื่อน

เทวดาต้องการที่จะเป็นเพื่อนกับเราและการมีมิตรภาพกับเรา ท่านช่วยเราได้อย่างมากเลยทีเดียว อย่าลืมความช่วยเหลือและความร่วมมือของท่านเป็นอันขาดเพราะว่าเพื่อนที่ดีนั้นเปรียบเสมือนขุมทรัพย์ที่ประเสริฐ นักบุญเอากุสตินกล่าวว่า “ ชีวิตที่ปราศจากเพื่อนเป็นชีวิตที่อ้างว้าง ” ท่านกล่าวถึงเพื่อนอัลปีโอของท่านว่า “ เราเป็นสองร่างกายแต่เป็นหนึ่งวิญญาณ การเป็นหนึ่งเดียวของหัวใจช่างยิ่งใหญ่ มิตรภาพอันแนบแน่นระหว่างเราช่างมั่นคงเสียเหลือเกิน ” ( จดหมาย 28,1,1) ถ้าหากว่าเราสามารถให้มิตรภาพอันลึกซึ้งของการเป็นสองวิญญาณหนึ่งเดียวกันนี้ รักพระเยซูเจ้าด้วยหัวใจเดียวกัน ด้วยวิญญาณเดียวกันและด้วยชีวิตอันเดียวกัน ก็คงจะเป็นการวิเศษเลยทีเดียว เพื่อจะเป็นแบบนี้ได้ก็คงจะเป็นการเหมาะสมมากถ้าหากว่าเราจะอุทิศความสนิทสัมพันธ์และมิตรภาพของเรากับพระเยซูเจ้า โดยทางความรักต่อกันและกันหรือด้วยการสัญญาว่าจะรักกันโดยปราศจากเงื่อนไข

โดยส่วนตัวแล้วข้าพเจ้าพูดได้เลยว่าอารักขเทวดาที่รักของข้าพเจ้าพร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือแก่ข้าพเจ้าและข้าพเจ้าก็รักท่านนับวันยิ่งมากขึ้น ข้าพเจ้าหัวเราะ ร้องเพลง สวดภาวนา และพูดคุยพร้อมกับท่านราวกับว่าข้าพเจ้าเห็นท่าน เวลาที่ข้าพเจ้าเข้าไปในวัด ข้าพเจ้าก็ขอท่านให้ภาวนาพร้อมกับข้าพเจ้าและขอท่านให้ช่วยเหลือข้าพเจ้าในทุกสิ่ง เมื่อเริ่มต้นของวันใหม่ ข้าพเจ้าก็สวัสดีท่านพร้อมกับขอให้ท่านส่องสว่างให้รู้จักทำหน้าที่อย่างฉับพลันและอย่างดีและที่แน่นอนที่สุดในหลายๆกรณี ข้าพเจ้าได้รับการดลใจจากท่านแบบที่ไม่รู้ว่าจะอธิบายได้อย่างไร

รองจากพระเยซูเจ้า แล้วท่านเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของข้าพเจ้า มีหลายครั้งที่ข้าพเจ้าคิดว่ามีคนมากมายในโลกที่ไม่มีเพื่อนที่แท้จริง พวกเขาไม่ไว้ใจใครและไม่เชื่อว่ามีใครที่รักเขา … ราวกับว่าพวกเขาอยู่ในต่างแดนที่มีความโดดเดี่ยวและถูกทอดทิ้งหรือถูกเบียดเบียน ถ้าเพียงแต่พวกเขาทราบว่า นอกเหนือไปจากพระเยซูเจ้าแล้ว เขายังมีเพื่อนที่ซื่อสัตย์ผู้นี้แล้วละก็ ชีวิตของพวกเขาก็คงจะแตกต่างไปกว่านี้มาก พวกเขาจะได้รับความสุขและความสบายใจสักเพียงไร

แอร์มันโน อันซิลลี ในพจนานุกรมชีวิตฝ่ายจิต ท่านพูดว่า “ เราควรจะถือว่า อารักขเทวดาเป็นเพื่อนสนิทของเราเพราะว่าพระเยซูเจ้าตรัสว่า พระองค์ประทานเทวดามาเพื่อให้อยู่ใกล้ชิดกับเรา ใครที่ประเมินค่าเทวดาต่ำก็สบประมาทความช่วยเหลือที่พระเยซูเจ้าเองทรงต้องการที่จะประทานให้แก่เขา ” ก็เปรียบเสมือนผู้ที่ไม่ต้องการที่จะได้รับความช่วยเหลือจากพ่อแม่ของเขาเพื่อจะดำเนินชีวิตตามลำพัง … เขาจะขาดความรักและความช่วยเหลือมากมายในฐานะลูก ที่พึงจะได้รับจากพ่อแม่ของเขา

มีหนังสือแพร่หลายเล่มหนึ่งเล่าถึงความช่วยเหลือที่เทวดาให้แก่เด็กสองคนที่กำลังเดินข้ามสะพาน เทวดาช่วยพวกเขาไม่ให้ต้องพลัดตกลงไป มันเป็นภาพพจน์ที่มีความหมายมากสำหรับข้าพเจ้า แล้วมันมีความหมายพิเศษเลยทีเดียวเพราะว่านับตั้งแต่เด็กมาแล้ว ที่รูปภาพนี้ตั้งอยู่ที่หัวเตียงนอนของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าเคยอ่านให้น้องๆข้าพเจ้าฟังหลายครั้งว่า ความศรัทธาต่ออารักขเทวดาเป็นความศรัทธาของครอบครัวเราและเราก็ได้มีความรักต่อท่านในครอบครัวของเราตามที่คุณแม่ของเราได้สอนเรานับตั้งแต่เด็กมาแล้ว นอกเหนือไปจากนั้นการที่ข้าพเจ้ามีชื่อว่า Angelo ( เทวดา ) ก็หาใช่เป็นความบังเอิญไม่ นอกนั้นข้าพเจ้ายังได้สวดทั้งวันซึ่งบทภาวนานี้ ข้าแต่อารักขเทวดา เพื่อนที่แสนดี โปรดอย่าทอดทิ้งข้าพเจ้าไม่ว่าจะเป็นกลางวันหรือกลางคืน … บางครั้งก็ขับร้อง เวลาที่ข้าพเจ้าเทศน์ข้าพเจ้าก็ภาวนาขออารักขเทวดาของบรรดาสัตบุรุษที่ฟังข้าพเจ้า บางครั้งข้าพเจ้าก็ทำแบบเดียวกันนี้กับเทวดาของผู้ที่ยืนอยู่รอบตัวข้าพเจ้า หรือกับผู้ที่ข้าพเจ้าพูดคุยด้วย มันเป็นประสบการณ์ที่มีผลมาก ข้าพเจ้าอยากจะเสนอให้ท่านผู้อ่านลองขอพระพรจากพระเยซูเจ้าพร้อมกับเทวดาก่อนเข้านอนทุกคืนดู พร้อมกับขอให้ท่านภาวนาทั้งคืนสำหรับท่านผู้อ่าน แล้วท่านผู้อ่านจะเห็นว่าท่านผู้อ่านมีเพื่อนที่แสนดีอยู่เคียงข้างท่านเพื่อภาวนาสำหรับท่านพร้อมกับให้พรแก่ท่านด้วย จะเป็นการดีมิใช่น้อยถ้าหากว่าท่านผู้อ่านจะถวายบูชามิสซาเป็นเกียรติแด่อารักขเทวดาของท่าน และแด่เทวดาทุกระดับชั้นด้วย เวลาที่จะไปรับศีลมหาสนิทก็จงขอท่านพร้อมกับพระแม่มารีให้เตรียมตัวท่านผู้อ่านเพื่อจะได้รับพระเยซูเจ้าอย่างเหมาะสม

อย่าทำให้ท่านต้องเสียใจเพราะความประพฤติที่ไม่ดีของเรา จงระลึกเสมอว่าเราไม่เคยอยู่ตามลำพังเลย อารักขเทวดาอยู่กับเราตลอดเวลา ดังนั้น ดังที่ นักบุญแบร์นาโด ได้กล่าวไว้ว่า “ จงมีความเคารพอย่างสูงต่ออารักขเทวดาของท่าน จงอย่าทำต่อหน้าเทวดาสิ่งที่ท่านไม่อยากจะทำต่อหน้าฉัน ” จะเป็นการดีไม่น้อยถ้าจะตั้งชื่อให้เทวดาของเราเพื่อเราจะเรียกท่านได้ด้วยความมั่นใจ ชื่อนั้นอาจจะเป็นชายก็ได้ หญิงก็ได้ จะเกี่ยวกับฤทธิ์กุศลหรืออะไรที่ดีงามก็ได้ เช่น กุหลาบ ความรัก ขุมทรัพย์ ลักยิ้ม ฯลฯ

จงจำไว้ว่าอารักขเทวดาของเราต้องการที่จะเป็นเพื่อนกับเรา เราจะปฏิเสธกระนั้นเชียวหรือ ? ถ้าหากว่าเรารักท่านจริงๆ ท่านก็จะสอนเราให้รักพระเยซูเจ้าและพระแม่มารีแล้วเราก็จะเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วบนหนทางไปสู่องค์พระผู้เป็นเจ้า เราอาจจะพูดกับท่านด้วยความจริงใจว่า “ เธอเป็นเพื่อนร่วมทางของเรา เป็นเพื่อนและผู้ที่เราไว้วางใจ ให้เรามาสนิทสัมพันธ์กัน ในมิตรภาพอันแนบแน่น ” ( สดด . 54,14)

ในบ้านของท่าน มีรูปอารักขเทวดาบ้างหรือเปล่า ?