เมื่อวานนี้ไปจ่ายค่าโทรศัพท์ ที่ TOT ตอนบ่ายสามโมง(15:00 น..)เจ้าหน้าที่
TOTที่เคาเตอร์บอกว่าต้องเสียค่าต่อสัญญาณ 107 บาท> เพราะสัญญาณถูกตัดไปตอนเที่ยงแล้ว (ตัดตอนไหนไม่รู้ตอนเที่ยงยังใช้ได้อยู่เลย)
ผมถามว่าทำไมต้องจ่ายค่าต่อสัญญาณด้วย ก็มาจ่ายช่วงนี้แทบทุกครั้ง
เจ้าหน้าที่บอกว่าตอนนี้ฝ่ายเร่งรัดหนี้สินร่นระยะเวลาเก็บเร็วขึ้นอีก 1 สัปดาห์ คนอื่น ๆ ก็โดนตัดเหมือนอย่างคุณเขาก็ต้องจ่ายค่าต่อสัญญาณทั้งนั้น
ผมบอกว่ายังไงผมก็ไม่จ่ายหรอกนะ
คุณลองไปหาทางดูว่าจะต้องทำอย่างไร ผมมีเวลาให้ 15 นาที ไม่เช่นนั้นผมจะไปฟ้องศาลผู้บริโภค และศาลปกครอง เธอก็ทำท่าตกใจ อะไรแค่นี้เป็นเรื่องใหญ่ต้องไปฟ้องศาลด้วยหรือเจ้าหน้าที่หลายๆคนได้ยิน ต่างก็ซุบซิบกันใหญ่ มองมาที่ผมเป็นตาเดียวเลย ส่วนเจ้าหน้าที่คนนั้นก็เดินเข้าไปหารือในห้องผู้บริหารด้านใน ผมก็ลุกเดินออกมาด้านนอกโทรศัพท์เข้าไปที่
1166 สายด่วนผู้บริโภค ปรากฏว่าไม่มีเจ้าหน้าที่ สคบ.รับสาย ระหว่างโทรหลายรอบก็เกือบ 10 นาที พอดีเจ้าหน้าที่คนเดิมก็เดินมาบอกผมว่าผู้ใหญ่อนุโลมให้ครั้งนี้
ไม่ต้องจ่ายค่าต่อสัญญาณ แต่ครั้งหน้าต้องมาจ่ายให้เร็วนะจะได้ไม่ถูกตัดสัญญาณอีก ถ้าถูกตัดอีกก็ต้องจ่ายค่าต่อสัญญาณ 107 บาท ผมบอกไปว่าขอบคุณนะครับ
จะพยายามมาจ่ายให้เร็วขึ้นถ้าว่าง
คิดในใจคราวหน้าจะมาจ่ายให้ช้าอีกสักสัปดาห์ ให้ถูกตัดสัญญาณก่อน อยากดูสิว่าจะต้องจ่าย 107 บาทค่าต่อสัญญาณไหม? เผื่อจะได้ให้ศาลผู้บริโภคสั่งสอนพวกบริษัทผู้ให้บริการที่ชอบลักไก่แกล้งโง่
เพราะว่ามันเก็บไม่ได้อยู่แล้วไม่มีอยู่ในข้อสัญญาและขัดต่อประกาศ (กทช.) เล่าแบ่งปันมา เพื่อบอกว่า "อย่าให้คุณบริษัทพวกนี้มันมาเอาเปรียบเราอีก"
ช่วยบอกกันต่อๆ ไปให้มาก ๆ ด้วยนะครับ ค่าบริการต่อสัญญาณโทรศัพท์ 107 บาทเรียกเก็บไม่ได้ สถาบันคุ้มครองผู้บริโภคในกิจการโทรคมนาคม ย้ำผู้ให้บริการโทรศัพท์เรียกเก็บค่าต่อสัญญาณ 107 บาทไม่ได้
การเรียกเก็บค่าบริการเป็นการขัดต่อประกาศของคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ(กทช.) ว่าด้วยเรื่องมาตรฐานสัญญาการให้บริการโทรคมนาคม พ.ศ.2549ผู้ให้บริการอาจถูกเพิกถอนใบอนุญาตได้>
มีผู้ใช้บริการโทรศัพท์สงสัยกันมานานแล้วว่า การที่ผู้ใช้บริการถูกระงับการให้บริการเนื่องจากไม่ชำหนี้ค่าโทร การขอใช้บริการใหม่จะต้องเสียค่าธรรมเนียม 107 บาทหรือไม่
เพราะที่ผ่าน ๆ มา
ก็มีการเรียกเก็บกันมาโดยตลอด สถาบันคุ้มครองผู้บริโภคในกิจการโทรคมนาคม (สบท.) ซึ่งเป็นหน่วยงานอิสระรับเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับปัญหาการใช้บริการโทรคมนาคม
มีผู้ใช้บริการโทรศัพท์หลายรายได้ร้องเรียนเข้าไปที่หน่วยงานแห่งนี้ว่า
ตนผิดนัดชำระค่าบริการติดต่อกันสองงวด และถูกยกเลิกการให้บริการ แต่เมื่อจะจ่ายชำระค่างวดทั้งหมดเพื่อขอใช้บริการใหม่ ปรากฏว่ามีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมจำนวน 107 บาทแถมเข้ามาอีกใครไม่ยอมจ่ายก็ไม่ต่อสัญญาณโทรศัพท์ให้จำต้องจ่ายกันเป็นแถว คำถามก็คือว่ามีสัญญาข้อไหนที่ระบุให้ผู้ให้บริการสามารถเรียกเก็บเงินจำนวนนี้ได้ หลังรับเรื่องร้องเรียน ทาง สบท.ได้ทำจดหมายถึงผู้ให้บริการต่าง ๆ เพื่อสอบถามว่า การเก็บค่าบริการต่อสัญญาณ 107 บาทนี้มันอยู่ในข้อสัญญาข้อไหนบ้าง ให้ผู้ให้บริการแสดงมา ปรากฏว่า ไม่มีผู้ให้บริการรายไหนแสดงข้อสัญญาว่าให้มีการเรียกเก็บค่าต่อสัญญาได้ และผู้ให้บริการต่างยินยอมยกเลิกการเรียกเก็บเงินจำนวน! นี้กับผู้ใช้บริการที่ร้องเรียนเข้าไปที่สบท. ทั้งสิ้น
ข้อแนะนำ การเรียกเก็บค่าบริการนี้เป็นการขัดต่อประกาศของคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ(กทช.) ว่าด้วยเรื่องมาตรฐานสัญญาการให้บริการโทรคมนาคม พ.ศ.2549 !
ที่ห้ามไม่ให้ผู้ให้บริการเรียกเก็บค่าธรรมเนียม ค่าบริการ
หรือค่าใช้จ่ายอื่นนอกเหนือจากที่กำหนดไว้ในสัญญา พูดง่าย ๆ ก็คือ การเรียกเก็บค่าต่อสัญญาณ 107 บาทนั้น เป็นการลักไก่เรียกเก็บค่าบริการที่ไม่ได้ระบุไว้ในสัญญาระหว่างผู้ให้บริการกับผู้ใช้บริการ ซึ่ง สบท. จับได้ว่าเป็นการกระทำที่ผิดต่อสัญญา ซึ่งมีความผิดถึงขั้นถูกเพิกถอนใบอนุญาตได้ ทางผู้ให้บริการจึงอ้อมแอ้มยอมคายเงินคืนหรือยกเลิกการเรียกเก็บเงินจำนวนนี้ แต่ก็ทำเฉพาะกับรายที่ไปร้องเรียนกับ สบท. เท่านั้น ดังนั้นจึงคาดว่าน่าจะมีผู้ปบริโภคที่ถูกละเมิดอยู่เป็นจำนวนมาก
จึงขอให้ช่วยบอกต่อ ๆกันไปว่า ค่าต่อสัญญา 107 บาท บริษัทโทรศัพท์จะเรียกเก็บจากเราไม่ได้ครับ ดังนั้นหากผู้ใช้บริการติดค้างค่าบริการอยู่ก็ให้ใช้คืนไปตามจำนวนที่ได้รับแจ้ง
และผู้ให้บริการจะต้องเปิดสัญญาณโทรศัพท์ให้กับลูกค้าโดยทันที ห้ามเรียกเก็บค่าบริการอื่นใดอีก
มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค เลขที่ 4/2 ซอยวัฒนโยธิน แขวงถนนพญาไท เขตราชเทวี กทม
|