เปิดใจให้กว้าง...แล้วจะเห็นอะไรได้มากกว่าที่คุณคิด
คนเรามักจะยึดติดและไม่ยอมปล่อยผลประโยชน์ตรงหน้า ทำให้เรามองอะไร ด้วยมุมมองที่แคบลง มีบริษัทหนึ่งประกาศรับสมัครพนักงานใหม่หนึ่งคน และมีคนมาสมัครมากมายหลายร้อย บริษัทนั้นให้ผู้สมัครทุกคนทำตอบคำถามหนึ่งข้อ
ซึ่งคำถามมีอยู่ว่า ในดึกคืนหนึ่งที่ฝนตกฟ้าคะนองขนาดหนักมากและคุณกำลังขับรถกลับบ้านขณะที่ขับผ่านป้ายรถเมล์ป้ายหนึ่ง คุณพบคนสามคนกำลังรอให้ฝนหยุดเพราะดึกเกินกว่าจะมีรถเมล์วิ่งแล้ว คนสามคนนั้นคือ
1. หญิงชราที่กำลังป่วยและต้องการการรักษาด่วน มิฉะนั้นเธออาจจะตายได้ 2. หมอซึ่งครั้งหนึ่งเคยช่วยชีวิตคุณไว้
3. ผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งเป็นแฟนของคุณและคุณรักเขามากขนาดจะแต่งงานกับเขาให้ได้
คำถามมีอยู่ว่า รถคุณเป็นแบบนั่งได้แค่สองคน ดังนั้นคุณจะรับคนไปด้วยได้อีกแค่คนเดียว
คุณจะรับใครไปด้วย และให้เหตุผลที่ตัดสินใจอย่างนั้น
พวกเราก็ลองคิดดูสิว่าถ้าเราเป็นคนตอบคำถามข้อนี้เราจะตอบว่ายังไง แล้วเทียบกับเหตุผลข้างล่าง เอาล่ะ
ลองดูเหตุผลของคำตอบแต่ละแบบแล้วเทียบกับเหตุผลของคุณ เนื่องจากแต่ละข้อก็มีเหตุผลที่เหมาะสมในตัวของมันเอง
เหตุผลข้างล่างนี้เป็นเหตุผลของคนเกือบทุกคน
1. ถ้าคุณตอบว่ารับคนแก่ เหตุผลก็เพราะเขากำลังจะตาย ถ้าคุณรับไปก็เท่ากับช่วยชีวิตคนได้
2. ถ้าคุณตอบว่ารับหมอ เหตุผลก็เพราะเขามีบุญ คุณกับคุณ และนี่คือเวลาที่จะตอบแทนได้บางส่วน
3. ถ้าคุณตอบว่ารับแฟนคุณ เหตุผลก็เพราะเขาเป็นคนที่คุณรัก
คิดว่าตรงแค่ไหนล่ะ แต่ผู้ที่บริษัทนั้นรับเข้าทำงานเป็นผู้เดียวที่ตอบอีกแบบนึง...ให้คิดอีกที
คำตอบอยู่ข้างล่าง
เขาตอบว่า "เขาจะให้กุญแจรถกับหมอ ให้หมอพาคนแก่ไปโรงพยาบาล และเขาก็จะอยู่ที่ป้ายรถเมล์นั้น กับคนที่เขารัก"
เป็นไง ประหลาดใจกับคำตอบใช่ไหมและคิดว่ามันเป็นคำตอบที่ดีมากใช่ไหม ข้อคิดของเรื่องนี้คือ คนเรามักจะยึดติดและไม่ยอมปล่อยผลประโยชน์ตรงหน้า (กุญแจรถ และการกลับบ้าน)
ทำให้เรามองอะไร ด้วยมุมมองที่แคบลง จะเห็นว่าการมอบกุญแจรถให้หมอ นอกจากจะได้ตอบแทนบุญคุณ (หมอก็คงไม่ยึดรถไปเป็นของตัวเองหรอก ภายหลังก็เอามาคืน)
เรายังได้ช่วยชีวิตหญิงชรา แถมได้อยู่กับคนที่เรารักแบบสองต่อสอง
เรียกได้ว่าเสียไปแค่ไม่ได้กลับบ้านในตอนนั้น! แต่เราบรรลุวัตถุประสงค์ใหญ่อีกหลายอย่างได้ คุณล่ะ คิดว่าคุณมีมุมมองที่กว้างหรือแคบและยึดติดกับผลประโยชน์ต่าง ๆ แค่ไหน
|