เขาเล่าว่า กิซรอ กษัตริย์แห่งเปอร์เซียได้เห็นชายชราคนหนึ่ง กำลังปลูกต้นซัยตูน
(ต้นไม้ชนิดหนึ่งผลคล้ายมะกอกน้ำ) จึงหยุดดูอยู่สักครู่พลางนึกในใจว่า ตาคนนี้คงจะไม่ได้กินผลของมันแน่ ๆ เพราะแกก็ชรามากแล้ว ในที่สุดก็พูดขึ้นว่า นี่ลุง ! อายุของลุง ไม่ใช่เวลาที่จะปลูกต้นไม้ชนิดนี้
เพราะมันเป็นต้นไม้โตช้า กว่าจะมีผลก็นานปี และตัวท่านก็ชรามากแล้ว
ชายชราตอบว่า เรื่องนั้นไม่สำคัญ คนแต่ก่อนเขาปลูกเราจึงได้กิน บัดนี้เราปลูกคนข้างหลังจะได้กิน กษัตริย์องค์นั้นพอใจในคำตอบของชายชรามาก
จึงให้เงินรางวัลจำนวนหนึ่ง
เมื่อชายชราได้รับเงินรางวัลแล้วก็ทำความเคารพแล้วก็พูดขึ้นว่า ไม้ต้นนี้ท่านเห็นอย่างไร ?
มันช่างให้ผลรวดเร็วเหลือเกิน กษัตริย์พอใจในคำพูดของชายชรามาก จึงรางวัลเงินให้อีกจำนวนหนึ่ง
เมื่อชายชรารับเงินแล้วก็แสดงความเคารพ แล้วก็พูดขึ้นอีกว่า ตามธรรมดา
ต้นไม้ส่วนมากย่อมให้ผลปีละครั้ง แต่ต้นไม้ของผมต้นนี้ ชั่วระยะเวลาประเดี๋ยวเดียวให้ผลถึงสองครั้ง คำพูดของชายชราครั้งนี้ก็ทำให้กษัตริย์เกิดความพอใจมิใช่น้อย จึงรางวัลเงินให้อีกจำนวนหนึ่งแล้วก็รีบเดินจากไป
พลางพูดกับผู้ติดตามว่า ถ้าเราขืนอยู่ต่อไป ตาแก่คนนี้แกคงเล่นเงินเราหมดกระเป๋าแน่ ๆ
มนุษย์ที่ อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ให้เกิดมานี้ ต่างมีความผูกพันซึ่งกันและกันประดุจดังลูกโซ่
ถึงแม้จะได้เห็นหน้าค่าตากันหรือไม่ก็ตาม ทั้งโดยทางตรงและทางอ้อม หากแต่ละคนมีความรู้สึกเช่นนี้ การแก่งแย่ง การทะเลาะเบาะแว้ง การรบราฆ่าฟันกันก็จะไม่เกิดขึ้น จะมีแต่การเผื่อแผ่อำนวยประโยชน์ให้แก่กัน
ต่างคนก็จะมีชีวิตอยู่ในโลกนี้ด้วยความผาสุก
แต่โลกเราทุกวันนี้ ช่างเต็มไปด้วยความเห็นแก่ตัว การเอารัดเอาเปรียบ การแย่งกันกินแย่งกันอยู่ ต่างคนต่างเอาตัวรอด ตัวใครตัวมัน การเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่
การช่วยเหลือเกื้อกูลซึ่งกันและกันค่อนข้างหาได้ยาก คนยากจนกับคนมั่งมี เหมือนอยู่กันคนละโลก แม้กระทั่งสายโลหิตเดียวกัน ความชุลมุนวุ่นวายจึงยิ่งทวีความรุนแรงยิ่งขึ้นไม่มีจุดจบ
อนึ่ง คนที่มีความเฉลียวฉลาดเข้าใจพูด เข้าใจทำ ย่อมมีกำไรเสมอ
ม.ซอลิฮี จากหนังสือมิตราจารย์
|