รูปแม่พระประจำวัด

                 ตามประวัติกล่าวว่า รูปนี้ ชาวโปรตุเกสนำมาจากกรุงศรีอยุธยา คราวที่กรุงศรีอยุธยาถูกพม่าตีแตก โดยนำมา พร้อมๆกับรูปพระศพของพระเยซูเจ้านั่นเอง จึงเป็นรูปที่มีอายุกว่าสองร้อยปีแล้ว จนถึงบัดนี้ ไม่มีใครทราบแน่ชัดว่า รูปนี้ถูกสร้างขึ้นด้วยศิลปะที่เรียกว่าอะไร หรือมาจากชาติใด และถูกสร้างขึ้นเมื่อใดและที่ใด รูปนี้ เป็นรูปพระนางมารีอาอยู่ในท่ายืน โดยมีดวงจันทร์อยู่ใต้พระบาท พระหัตถ์ซ้ายกำลังอุ้มพระกุมาร และพระหัตถ์ขวา อยู่ในอาการที่กำลังถือบางสิ่งอยู่ โดยไม่มีใครรู้ว่าโดยแท้จริงผู้สร้างรูปนี้ประสงค์จะให้พระนางถืออะไรในพระหัตถ์ขวานี้  เท่าที่เคยพบเห็นรูปที่มีความคล้ายคลึงกัน อาจเป็นไม้คฑา หรืออาจเป็นช่อดอกไม้ก็ได้  อย่างไรก็ตาม เพื่อให้ความหมายของพระนางมารีอา ผู้เป็นราชินีแห่งสวรรค์ ตามที่ปรากฎอยู่ในหนังสือวิวรณ์ บทที่ 12 ข้อ1 “เครื่องหมายยิ่งใหญ่ปรากฎในสวรรค์ คือสตรีผู้หนึ่ง มีดวงอาทิตย์เป็นอาภรณ์ มีดวงจันทร์อยู่ใต้เท้า มีมงกุฎดาวสิบสองดวงประดับศีรษะ “ ปัจจุบัน จึงมีคฑาอยู่ในพระหัตถ์ขวาของพระนาง และหากจะให้ครบถ้วนตามความหมายนี้แล้ว ต่อไปควรจะมี มงกุฎดาวสิบสองดวงประดับศีรษะด้วย


        
ส่วนองค์พระกุมารนั้น ทรงอยู่ในท่านั่งบนแขนซ้ายของแม่พระ หระหัตถ์ขวาของพระองค์ ทรงจับยึดอยู่กับมวยผมของพระแม่ แสดงถึงความใกล้ชิดและความเป็นหนึ่งเดียวกันอย่างละมุนละไม ส่วนพระหัตถ์ซ้ายของพระองค์ทรงถือโลกไว้ยื่นอยู่ตรงพระพักตร์ ราวกับเป็นสมบัติหวงแหนยิ่งที่พระองค์ต้องรักษาไว้ นั่นคือการไถ่โลกหรือมนุษยชาติให้ได้รับความรอด

         แต่เดิม เข้าใจกันว่ารูปนี้ทำด้วยปูน แต่ต่อมาได้พบว่า ที่จริงแล้วรูปนี้ทำด้วยไม้ แกะสลัก เช่นเดียวกับรูปพระศพของพระเยซูเจ้านั่นเอง มีความสูงราวสี่ฟุต และคงได้รับการบูรณะมาบ้างแล้วตามกาลเวลา


                                พ่อสุรสิทธิ์