บรรณฐาน

บรรณฐานเดิม

บรรณฐานเดิมนี้ เป็นส่วนหนึ่งขององค์ประกอบในวัดทุกแห่งตั้งแต่โบราณก็ว่าได้  เป็นบรรณฐานที่มักจะตั้งไว้ในตำแหน่งกลางวัด  เข้าใจว่าเพื่อให้พระสงฆ์หรือสังฆานุกรที่อ่านพระคัมภีร์ และพระวรสาร และให้บทเทศน์ สามารถอ่านและเทศน์จากตำแหน่งที่ทุกคนในวัดสามารถมองเห็นและได้ยินได้ เนื่องจากว่า ในสมัยก่อนยังไม่มีเครื่องขยายเสียงมาช่วยในพิธีกรรมเหมือนในสมัยนี้  บรรณฐานเดิมของวัดนี้ สร้างขึ้นด้วยไม้ ที่มีรูปทรงใหญ่โตและงามสง่า ประดับด้วยลายฉลุรอบตัว และครอบด้วยหลังคาอันงดงามเพื่อเพิ่มความสง่างาม สมกับเป็นที่ประกาศพระวาจาของพระเจ้า มีรูปสัญญลักษณ์ของผู้นิพนธ์พระวรสารทั้งสี่ประดับอยู่โดยรอบ เพื่อบ่งบอกถึงภารกิจของตัวบรรณฐานเอง  ปัจจุบัน ไม่สะดวกที่จะใช้บรรณฐานเดิมนี้อีกต่อไป เพราะมีเครื่องขยายเสียงเข้ามาช่วยและทำให้การประกาศพระวาจาจากด้านหน้าซึ่งทุกคนมองเห็นได้ชัดมากกว่าเป็นสิ่งที่เพิ่มความงดงามให้แก่พิธีกรรมได้ดีกว่า เนื่องจากช่วยให้จังหวะจะโคนของพิธีกรรมดำเนินไปตามลำดับอย่างต่อเนื่องและเหมาะสม

บรรณฐานปัจจุบัน

บรรณฐานปัจจุบัน

จาก general instruction of the Roman Missal กำหนดว่า ศักดิ์ศรีของพระวาจาของพระเจ้า เรียกร้องให้วัดมีสถานที่อันเหมาะสมเพื่อการประกาศพระวาจา โดยที่หมู่คริสตชนในวัดทั้งหมดสามารถพุ่งความสนใจไปหาได้อย่างเป็นธรรมชาติในระหว่างวจนพิธีกรรม

นอกนั้น ยังกำหนดว่า แท่นพระวาจาหรือบรรณฐานนี้ควรต้องเป็นบรรณฐานที่มั่นคงถาวร มิใช่จะเป็นแบบที่จะเคลื่อนย้ายไปไหนต่อไหนได้โดยง่าย บรรณฐานยังต้องมีเพียง 1 ที่เท่านั้น ซึ่งต้องตั้งอยู่ในเขตสักการสถาน ใกล้กับพระแท่น เหมาะสมสำหรับประธานในพิธีเพื่อสื่อภาควจนพิธีกรรมให้เด่นชัด  และรูปแบบศิลปะและวัสดุของบรรณฐานควรออกแบบให้สอดคล้องกับพระแท่น

ที่สำคัญคือ บรรณฐานสงวนไว้สำหรับ อ่านบทอ่านจากพระคัมภีร์ ขับร้องเพลงสดุดีและสร้อยตอบรับ ขับร้องการประกาศสมโภชปัสกา และยังอาจใช้เป็นที่เทศน์และอ่านเจตนาในบทภาวนาของมวลชนได้อีกด้วย  ศักดิ์ศรีของบรรณฐานเรียกร้องให้มีแต่ผู้รับใช้พระวาจาเท่านั้นที่ขึ้นไปได้(ข้อ309)

ด้วยความเข้าใจต่อเจตนาของจารีตพิธีกรรมเช่นนี้ สภาอภิบาลของวัด โดยคุณสธน นิทัศนจารุกุล ผู้อำนวยการสภาฯ จึงมีความเห็นชอบที่จะสร้างบรรณฐานของวัดใหม่ให้เหมาะสมกว่าบรรณฐานไม้รูปทรงแท่งเหลี่ยม ซึ่งมีอยู่ 2 ตัว โดยใช้สำหรับอ่านพระวาจา 1 ตัว และใช้สำหรับประธานในพิธี ในการเริ่มบทนำและลงท้ายมิสซาอีก 1 ตัว ในการนี้ มอบหมายให้นางสาวขัตติยา เล้ากอบกุล (เอิน) เป็นผู้ออกแบบ เพื่อให้บรรณฐานใหม่นี้ทำด้วยหินอ่อน เช่นเดียวกับพระแท่นบูชา ให้ตั้งอยู่ใกล้พระแท่นบูชา และมีขนาดใหญ่ขึ้นเพื่อความสง่างาม และตั้งในตำแหน่งสูงขึ้นเพื่อความเด่นชัด และได้ว่าจ้างร้าน วิษณุหินอ่อน สระบุรี เป็นผู้ดำเนินการ ให้ร้านอภิชาติ ถนนสายไม้ บางโพ เป็นผู้แกะสลักรูปสัญญลักษณ์ทั้งสี่ของผู้นิพนธ์พระวรสาร

บรรณฐานปัจจุบันนี้ ติดตั้งเสร็จสมบูรณ์ ในวันเสาร์ที่ 20 กันยายน 2008 และได้รับการเสกในวันเดียวกัน


                          พ่อสุรสิทธิ์