เรื่องน่าอ่าน       รายการมิสซาประจำสัปดาห์

สวัสดีครับ พี่น้องที่รักทุกท่าน

พ่อเคยได้ยินข้อความหนึ่งที่น่าฟังน่าคิด แต่อาจจะทำให้งงเล็กน้อย ข้อความนั้นคือ
“จงอย่า ตาย ก่อนเสียชีวิต” พ่อคิดว่าข้อความนี้แฝงความหมายไว้ได้ดี เพราะทำให้แยกแยะได้ ระหว่างการเสียชีวิตฝ่ายร่างกายคือไม่มีลมหายใจ ไม่เคลื่อนไหว ไม่รู้สึกอะไรอีกต่อไป ซึ่งแตกต่างจากความตายฝ่ายจิตใจ คือไม่ยินดียินร้าย ไม่รื่นรมย์ ไม่ต้องการเรียนรู้หรือรับรู้อะไร ไม่สนุกกับชีวิต แล้วก็ไม่อะไรทั้งนั้น ภาษาชาวบ้านอาจเรียกง่ายๆว่า “ตายด้าน” ไปแล้วนั่นแหละ ด้วยเหตุนี้ บางคนแม้จะมีลมหายใจ เดินได้ แต่อาจตายไปแล้วก็ได้เหมือนกัน ถ้าไม่รักษาจิตใจให้เป็นผู้มีชีวิต ฉะนั้น จงอย่าตายก่อนเสียชีวิต เพราะชีวิตที่แท้นั้นอยู่ที่จิตใจต่างหาก

บังเอิญพ่อไปพบบทสอนทำนองเดียวกันนี้ ที่นำเสนอในอินเทอร์เน็ต เขาให้ชื่อว่า “Dying slowly” หรือพ่อแปลว่า “กำลังตายช้าๆ” นั่นคือ ลักษณะของคนที่แม้มีลมหายใจ แต่ใช้ชีวิตเหมือนคนตาย หรือกำลังตายนั้นมีลักษณะอย่างไรบ้าง พ่อจะขอยกตัวอย่างเพียงสองสามประการก็พอ เขาบอกว่า
“กำลังตายช้าๆ คือ คนที่ไม่ยอมท่องเที่ยวเดินทาง
กำลังตายช้าๆ คือ คนที่ไม่อ่านหนังสือ
กำลังตายช้าๆ คือ คนที่ไม่ฟังดนตรี
กำลังตายช้าๆ คือ คนที่ไม่เพลิดเพลินชีวิตของตน
กำลังตายช้าๆ คือ คนที่ติดเป็นทาสกับนิสัย ชอบทำเรื่องเก่าซ้ำไปซ้ำมาทุกวี่ทุกวัน
กำลังตายช้าๆ คือ คนที่ไม่ยอมเปลี่ยนยี่ห้อของใช้บ้าง
และไม่กล้าเปลี่ยนสีเสื้อที่ใส่”

ส่วนพี่น้องจะเชื่อตามนี้หรือไม่ ก็ไม่เป็นปัญหาแต่ประการใด ถ้าเรารู้สึกเป็นสุขอยู่แล้วกับโลกของตัวเอง ถ้าแต่ละวันเรามีโอกาสที่จะเพลิดเพลินกับชีวิตได้ เพียงแต่อย่าปล่อยให้ชีวิตของตนเอง กำลังตายอย่างช้าๆ ในแบบใดแบบหนึ่ง

วันนี้พ่อถือโอกาสเชิญชวนพี่น้องไปท่องเที่ยวแสวงบุญด้วยกันสักหน่อย ซึ่งเป็นความใฝ่ฝันของพ่อเอง ที่จะหาโอกาสไปยังที่ 2-3 แห่งสักครั้งในชีวิต นั่นคือ การไปแสวงบุญยังแม่พระแห่งปอมเปอี อิตาลี ซึ่งเป็นสักการะสถานแม่พระแห่งสายประคำ ตรงกับชื่อวัดของเรา และรูปแม่พระของเราซึ่งตั้งอยู่เหนือพระแท่นอันเป็นองค์อุปถัมถ์ของวัดเรา ก็คงมีความเป็นมาจากรูปแม่พระแห่งปอมเปอีนี่เอง อีกแห่งหนึ่งก็คือ แม่พระประจักษ์แห่งโลส์ ฝรั่งเศส ซึ่งพระศาสนจักรเพิ่งประกาศรับรอง เมื่อไม่นานมานี้ แม้ว่าการประจักษ์นี้จะเกิดขึ้นก่อนแม่พระประจักษ์ที่เมืองลูร์ดด้วยซ้ำ พ่อเคยเขียนเรื่องนี้ในสารวัดหลายเดือนก่อน ซึ่งทำให้พ่อตั้งใจว่า หากมีโอกาสจะขอไปเยี่ยมแม่พระที่นั่นสักครั้ง พอดีคุณพ่อน้องชายคือพ่อเล็ก (สุรชัย) จะจัดทัวร์ไปแสวงบุญโอกาสปีนักบุญเปาโลพอดี พ่อจึงปรึกษาขอให้จัดไปทั้งสองแห่งนี้ด้วย ซึ่งที่สุดก็ลงตัว โดยจะไปกันในระหว่างวันที่ 26 เมษายน – 6 พฤษภาคม 2009 ส่วนนอกจากนี้ เรายังจะไปกันอีกหลายแห่ง ทั้งฟาติมา (โปรตุเกส), ปาดัว (นักบุญอันตน), เวนิส, และแน่นอนกรุงโรมซึ่งจะใช้เวลามากหน่อย โดยจะมีค่าใช้จ่ายคนละ 122,000 บาท หากพี่น้องท่านใดสนใจจะร่วมเดินทางแสวงบุญครั้งนี้ด้วย ก็สามารถติดตามรายละเอียดได้ที่บอร์ดหน้าวัด หรือขอรายละเอียดได้ที่สำนักงานของวัดครับ

อันที่จริง พ่อเองมักเป็นพวกชอบเก็บตัว ไม่ค่อยชอบที่จะไปไหนต่อไหนมากนัก จึงทำให้บางทีชีวิตเครียดเกินความจำเป็น ปัญหาอาจอยู่ที่ทัศนคติ หากเปลี่ยนได้ ลองเปลี่ยนดู บางทีอาจจะเกิดสมดุลมากขึ้น เพราะถ้าหากชีวิตไม่รื่นรมย์กับอะไรเลย หรือชีวิตไม่มีอะไรท้าทาย ไม่มีสิ่งใหม่ๆ บ้าง ก็ไม่รู้ว่าเป็นชีวิตแบบใด

พ่อขออภัยที่ใช้พื้นที่ของสารวัด โฆษณาของการท่องเที่ยวแสวงบุญครั้งนี้ แต่เป็นเพราะการจัดทัวร์นี้ ทั้งพ่อเองและพ่อเล็กไม่มีผลประโยชน์ใดๆ เพราะต้องจ่ายค่าทัวร์เต็มราคาทั้งสองคนเหมือนคนอื่นๆ เพียงแต่เห็นว่าพี่น้องบางคนอาจสนใจ จึงนำเสนอเชิญชวน เผื่อว่าจะมีคนร่วมไปแสวงบุญด้วยกันหลายๆ คน คงได้ประโยชน์และสนุกมากในการเดินทาง
 

พ่อสุรสิทธิ์