เรื่องน่าอ่าน     รายการมิสซาประจำสัปดาห์

สวัสดีครับ พี่น้องที่รักทุกท่าน

เวลาเด็กเล็กๆ ทะเลาะกัน เด็กๆ มักใช้กำลังและการตะเบ็งเสียงเป็นอาวุธ โดยเฉพาะเรื่องการใช้เสียงดัง เป็นเรื่องที่ขาดไม่ได้เลย เพื่อให้ได้สิ่งที่ตนเองต้องการ อาจเป็นเพราะเท่าที่มีประสบการณ์การเรียนรู้มาตั้งแต่เวลาที่เป็นทารก วิธีการนี้ใช้ได้ผลดีอย่างมาก พ่อแม่และผู้ใหญ่จะยอมพ่ายแพ้ทุกครั้ง เด็กหลายคนจึงเข้าใจว่า การใช้เสียงดังและการได้พูดเป็นคนสุดท้าย กลายเป็นผู้ชนะ และถ้าบังเอิญตนเองตัวใหญ่กว่า และมันยังมี “หือ” ละก้อ ต้องใช้กำลังให้ยอมสยบไปเลย

ผู้ใหญ่บางคน ก็ยังติดนิสัยแบบเด็กๆ เหมือนกัน คือ ขอให้ได้พูดเป็นคนสุดท้ายเพื่อจะรู้สึกว่าตนเองเป็นผู้ชนะ บางครั้ง เดินหนีจากคู่กรณีไปแล้ว ยังตะโกนทิ้งท้ายให้ได้ยินตามหลังมาด้วย    ดูเหมือนว่า ไม่ว่าใครก็ต้องการเป็นผู้ชนะกันทั้งนั้น ซึ่งพ่อคิดว่าไม่ใช่เรื่องแปลกประหลาดสำหรับมนุษย์ปุถุชน เพียงแต่บางครั้ง น่าสงสัยว่า ชัยชนะนั้นได้มาอย่างไร และเพื่ออะไร น่าเสียดายนี่ไม่ใช่คำถามนำหน้าแต่เป็นคำถามที่จะตอบตามหลังเสียมากกว่า

แน่นอน พ่อคิดว่า สำหรับผู้ใหญ่ต่างฝ่ายก็อ้างว่ามีเหตุผล เหตุผลอาจทำให้การใช้กำลังน้อยลง แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีเลย เรื่องที่น่าเบื่อหน่ายเรื่องหนึ่งในสังคมก็คือ เรื่องการใช้อิทธิพล หรือเรื่องของนักเลงตาขาวที่เอาแต่รังแก ข่มเหงคนที่อ่อนแอ และต้องการอยู่อย่างสงบนั่นแหละ อิทธิพลคือสิ่งที่แฝงความหมายของการใช้กำลัง เพื่ออยู่เหนือคนอื่นหรือเพื่อได้เปรียบเอาผลประโยชน์เป็นของตนเอง แต่เอาเถอะ ทุกวันนี้ เวลาที่ผู้ใหญ่ทะเลาะกัน ต่างก็บอกว่ามีเหตุผลทั้งนั้น เพียงแต่ไม่ต้องการฟังเหตุผลอีกฝ่ายหนึ่งเสียเลย เพราะตั้งหลักจะไม่ยอมรับ ยังไงก็ไม่ยอมรับเหตุผลของอีกฝ่ายหนึ่งเสียแล้ว

มีผู้นำการสัมมนาท่านหนึ่ง ท้าทุกคนในที่ประชุมว่า เขาจะกำมือขวาของเขาให้แน่นที่สุด หากใครสามารถทำให้เขาแบมือออกมาได้ เขาจะให้รางวัลก้อนหนึ่ง หลายคนในที่ประชุม อาสารับคำท้า โดยหวังเอาชนะด้วยกำลัง เมื่อแต่ละคนมาถึงตัวผู้นำการสัมมนานั้น ต่างก็พยายามใช้กำลังงัดง้างให้นิ้วมือคลายออกจากกำปั้น ไม่มีใครทำสำเร็จเลย อาจเป็นเพราะผู้นำการสัมมนาตัวใหญ่ หนุ่มแน่น มีกำลัง แต่แล้วมีผู้หญิงคนหนึ่งออกมาอาสา เมื่อมาถึงตัวผู้นำการสัมมนา ผู้หญิงคนนั้นก็ยกมือขึ้น “ไหว้” ทันทีผู้นำการสัมมนา ก็ยกมือไหว้ตอบ

และนี่คือบทสรุปที่ผู้นำการสัมมนาต้องการให้กับที่ประชุมนั้น การใช้กำลังไม่สามารถนำไปสู่ชัยชนะ หรือหากดูเหมือนว่าชนะ มันก็ไม่ใช่ชัยชนะที่แท้จริงยั่งยืน ตรงกันข้าม ความสุภาพนอบน้อม ความเมตตาอารี ความเป็นผู้มีจิตใจงามต่างหาก สามารถเอาชนะทุกสิ่ง บางครั้ง ชัยชนะมาช้าหน่อย แต่จะมาถึงสักวัน “น้ำหยดลงหินทุกวันหินมันยังกร่อน” ทำนองนั้น

วันนี้ เราสมโภชพระคริตเจ้า กษัตริย์แห่งสากลจักรวาล เมื่อพูดถึงกษัตริย์เรามักแฝงไว้ด้วยความคิดของผู้ทรงอำนาจ เราพบว่ากษัตริย์ผู้ทรงอำนาจแห่งโลกนี้มากมายซึ่งได้อำนาจมาจากการทำสงคราม การฆ่าฟัน และความโหดร้าย อาจปกครองอาณาจักรได้ แต่ไม่สามารถครอบครองจิตใจมนุษย์ได้เลย แต่ความรัก ความเมตตา และการเสียสละของพระเยซูเจ้าที่ใช้ปกครองมนุษย์ ยังคงครอบครองจิตใจมนุษย์อยู่จนถึงทุกวันนี้

พ่อเองพูดจากประสบการณ์ว่า เรามนุษย์มักมีแนวโน้มต่อต้านคำร้องขอของผู้อวดเบ่ง ยะโส แม้คำร้องขอนั้นจะมีเหตุผลดีอยู่ในตัว ตรงข้าม เรามีแนวโน้มที่จะโอนอ่อนตามคำร้องขอของผู้มีใจสุภาพถ่อมตน แม้คำร้องขอนั้น บางทีอาจไม่มีเหตุผลเพียงพอด้วยซ้ำ

ด้วยเหตุนี้ ไม่มีอะไรยิ่งใหญ่กว่าความรักได้เลย
 

พ่อสุรสิทธิ์