บทสนทนาจากเจ้าอาวาส

สวัสดีครับพี่น้องที่รักทุกท่าน

เรื่องน่าอ่าน       รายการมิสซาประจำสัปดาห์

พ่อได้ยินใครบางคนบ่นว่า “ไม่ไหวแล้ว” ดูเหมือนกิจการดีบางอย่างที่กำลังทำอยู่ ทำเท่าไหร่ก็ไม่เกิดผลจนเป็นที่พอใจเลย จึงรู้สึกเหนื่อยหน่ายเหลือเกิน โดยเฉพาะท้อใจกับพฤติกรรมของคนที่ตนให้ความห่วงใยและหวังดี ยังกลับถูกตอบแทนด้วยท่าทีของความรำคาญ ไม่รู้จะทำยังไงดีต่อไป?

เรื่องทำนองนี้ เป็นเรื่องที่น่าเห็นใจจริงๆ โดยเฉพาะกับบรรดาพ่อแม่ผู้ปกครองของเด็กๆ หลายคนที่กำลังพบว่าลูกหลานของตนเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว จากแต่ก่อนที่น่ารักเหมือนเทวดา บัดนี้กลับดื้อดึง ก้าวร้าว เอาตัวออกห่างไปคบเพื่อน หรือไม่ก็ติดเกมส์ ฟุ้งเฟ้อชอบเที่ยว จนวัดวาไม่เอาเสียแล้ว ยิ่งทำให้เป็นห่วงและกังวลทั้งชีวิตฝ่ายโลกว่าจะลำบากในอนาคต และยังห่วงถึงชีวิตฝ่ายวิญญาณด้วย สาหัสจริงๆ

พ่อได้แต่เห็นใจ เพราะพ่อไม่สามารถและไม่มีใครสามารถให้คำตอบที่ “สำเร็จรูป” เบ็ดเสร็จเด็ดขาดได้ว่า จะต้องทำอย่างไร หนึ่ง-สอง-สาม ฯลฯ แต่ละกรณีมีอะไรเฉพาะของมันอยู่เสมอ แตกต่างกันไป พ่อได้แต่แนะนำให้กำลังใจว่า “เมื่อรู้สึกเหนื่อย ก็พักสักหน่อย ปล่อยให้สิ่งที่เกินกำลังควบคุมเป็นไป แต่อย่าหยุดหรือล้มเลิกไปเลย” เพราะการหยุด หรือการเลิกก็คือตาย พอได้พักสักหน่อย ตั้งสติให้ดีสักนิด มองอะไรให้กว้างขึ้น มองให้ดีเข้าไว้ ก็จะพอมีกำลังทำในสิ่งที่ดีต่อไป นี่แหละคือชีวิต ตรงข้าม หากเราไม่ยอมทำอะไรเลย ที่เราเชื่อว่าเป็นหน้าที่ หรือที่ออกมาจากความรักความห่วงใยของเรา เราจะยิ่งรู้สึกว่าชีวิตไร้ค่าและไม่เป็นสุข และนี่แหละ ไม่ใช่ชีวิต คือเมื่อชีวิตปราศจากอะไรสักอย่างที่เป็น “ความเชื่อ”

หากตนเองไม่มีชีวิต แล้วจะให้ชีวิตแก่คนอื่นได้อย่างไร

อันที่จริง เมื่อตั้งสติคิดให้ดี ยังมีอะไรอีกมากมายที่เราสามารถทำได้และยังไม่ได้ทำหรือยังทำไม่เต็มที่ หากเราเปิดมุมมองของชีวิตให้กว้างขึ้น บางที เราอาจพบคำตอบของเราก็ได้ ปัญหาของเรามนุษย์อาจอยู่ที่ เรามักปล่อยตัวปล่อยใจให้จมอยู่กับความล้มเหลวหนึ่ง จนไม่ลุกขึ้นมาเหลียวมองโอกาสแห่งความสำเร็จอื่นๆ ที่มีอยู่รอบตัวเรา โอกาสแล้วโอกาสเล่าจึงผ่านลอยไปอย่างน่าเสียดาย

“เราไปที่อื่นกันเถิด ไปตามตำบลใกล้เคียง เพื่อจะได้เทศน์สอนที่นั่นด้วย
เพราะเรามาด้วยจุดประสงค์นี้”
(มก.1:39)
พระเยซูเจ้าเอง ไม่เคยหยุด ไม่เคยเลิกที่จะแสวงหา บางครั้งพระองค์อาจต้องการที่สงัดและอธิษฐานภาวนา แล้วพระองค์จะออกเดินทางทำงานของพระองค์ต่อๆไป
 

พ่อสุรสิทธิ์